ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

กุหลาบแดง

กุหลาบแดง

กุหลาบแดงคือดอกไม้สุดโปรดของเธอ
และเธอก็ชื่อโรส ซึ่งหมายถึงกุหลาบด้วย
ทุกปีสามีของเธอจะส่งดอกกุหลาบผูกโบว์น่ารักให้
แม้กระทั่งปีที่เขาตายจากไป
เธอก็ยังได้รับดอกกุหลาบซึ่งมาส่งที่หน้าบ้าน การ์ดที่แนบมาเขียนไว้ว่า “ที่รักของผม”
เหมือนกับหลาย ๆ ปีก่อนหน้านี้ แต่ละปีที่เขาส่งดอกกุหลาบให้เธอ
เขาจะเขียนว่า ปีนี้ผมรักคุณมากกว่าที่ผมเคยรักเมื่อปีก่อน
เพราะความรักของผมเติบโดขึ้นทุกปีที่ผ่านไป”
เธอรู้ว่านี่คือกุหลาบช่อสุดท้ายแล้วที่เธอจะได้รับ
เธอคิดว่าเขาคงสั่งดอกไม้ล่วงหน้าก่อนถึงวันวาเลนไทน์
โดยที่เขาไม่รู้ว่าเขา จะจากไป เขามักจะทำอะไรเอาไว้ล่วงหน้าเสมอ
เพื่อที่จะได้ไม่พลาดแม้ว่าเขาจะงานยุ่งแค่ไหนก็ตาม
เธอต้ดก้านกุหลาบ แล้วจัดมันลงในแจกันสุดพิเศษ
วางไว้ข้างภาพถ่ายใบหน้าเปื้อนยิ้มของสามีนั่งลงบนเก้าอี้ตัวโปรดของเขา
เนิ่นนานนับชั่วโมง จ้องมองภาพถ่ายของเขา ที่มีดอกกุหลาบอยู่ด้านข้าง

หนึ่งปีผ่านไป
มันยากมากสำหรับการที่ต้องอยู่คนเดียว
โชคชะตาบันดาลให้เธอต้องกลายเป็นคนอ้างว้างเปล่าเปลี่ยว
แล้วกริ่งประตูก็ดังขึ้นเหมือนวันวาเลนไทน์ปีก่อน ๆ
เมื่อเธอเปิดประตูก็พบกุหลาบแดงวางอยู่ที่หน้าประตู
เธอนำมันเข้ามาในบ้าน และรู้สึกตกใจกับสิ่งที่ได้รับ

ในที่สุดเธอก็กดโทรศัพท์ไปที่ร้านดอกไม้
เมื่อเจ้าของร้านมารับสาย เธอจึงถามเขาว่า
ทำไมถึงมีคนส่งดอกไม้ให้เธอ
ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวด
“ผมทราบว่าสามีของ คุณจากคุณไปเมื่อปีที่แล้ว”
เจ้าของร้านตอบ “และผมก็รู้ว่าคุณต้องโทรมา
และอยากรู้ว่าใครส่งดอกไม้ไปให้ ดอกไม้ที่คุณ
ได้รับวันนี้ชำระเงินล่วงหน้าเรียบร้อยแล้วครับสามีคุณเป็นคนสั่ง
ดอกไม้โดยเตรียมการไว้ล่วงหน้า ผมยังมีคำสั่งซื้อดอกไม้จาก
เขาเก็บเอาไว้ในแฟ้มอีกผมได้รับคำสั่งให้ส่งดอกไม้ให้คุณทุกปี
ยังมีอีกเรื่องนะครับที่ผมคิดว่าคุณควรจะทราบ เขาเขียนการ์ด
พิเศษเอาไว้ให้คุณใบหนึ่งเมื่อหลายปีที่แล้ว
และเขาต้องการให้ผมส่งการ์ดนี้แก่คุณ
ในปีถัดจากปีที่เขาจากคุณไปแล้ว”

เธอกล่าวขอบคุณเจ้าของร้านดอกไม้แล้ววางโทรศัพท์
น้ำตาไหลอาบแก้ม
นิ้วของเธอสั่นระริกขณะเอื้อมมือไปหยิบการ์ดใบนั้น
บนการ์ดมีลายมือของเขาที่เขียนถึงเธอ
แล้วเธอก็เริ่มอ่านมันอย่างเงียบ ๆ
ในการ์ดเขียนว่า
“หวัดดีจ้ะที่รัก ถึงตอนนี้ผมได้จากคุณไปหนึ่งปีแล้ว
หวังว่ามันคงไม่ทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยเกินไปในการต่อสู้กับปีที่ผ่านมานะ
ผมรู้ว่าคุณคงรู้สึกอ้างว้างและเจ็บปวด
ถ้าเป็นผมก็คงรู้สึกไม่ต่างจากคุณ
ความรักของเราสองคนทำให้ทุกสิ่งในชีวิตดูงดงามไปหมด
ผมรักคุณมากเกินกว่าที่จะบรรยายได้คุณคือภรรยาที่สมบูรณ์แบบ
คุณเป็นทั้งเพื่อนและคนรัก
คุณเติมชีวิตผมให้เต็ม
ผมรู้ว่ามันเพิ่งผ่านไปได้แค่ปีเดียวแต่ผมไม่อยากให้คุณตกอยู่ในความเศร้า
ผมอยากให้คุณมีความสุขแม้กระทั่งเวลาที่คุณหลั่งน้ำตา
และนี่คือเหตุผลว่าทำไมผมจะยังคงส่งดอกไม้ให้คุณต่อจากนี้อีกหลายปี
เมื่อคุณได้รับดอกกุหลาบผมอยากให้คุณนึก
ถึงความสุขตลอดระยะเวลาที่เราได้รักกัน ผมรักคุณเสมอ
และรู้ว่ามันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป
แต่ที่รัก คุณต้องต่อสู้ต่อไป
ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป ได้โปรดมองหาความสุข
ตลอดวันเวลาที่คุณยังมีชีวิตอยู่
ผมรู้ว่ามันไม่ง่าย หากหวังว่าคุณคงไปถึงมันได้สักวัน
กุหลาบจะส่งถึงคุณทุกปี
และจะหยุดส่งก็ต่อเมื่อคนที่มาส่งดอกไม้เคาะประตูแล้ว
ไม่มีใครมาเปิดรับ
เขาจะมาส่งห้าครั้งในวันนั้นเผื่อว่าคุณจะออกไปธุระข้างนอก
หากครบห้าครั้งแล้วยังมอบดอกกุกลาบ
ให้คุณไม่ได้เขาจะรู้เองว่าต้องนำดอกไม้ไปยังสถานที่ที่ผมสั่งเอาไว้
ดอกกุหลาบจะวางลงบนที่ที่เราจะได้อยู่ร่วมกัน อีกครั้งชั่วนิรันดร์

กระถางคว่ำ ดินหกเรี่ย กลุ่มต้นไม้ล้มลุกใบเขียวเข้ม
ลำต้นอวบ ก็พากันหลุดร่วง ถอดถอนรากออกจากกระถาง
ไปกระจัดกระจายอยู่บนหลังคากระเบื้องสีนวลปูน
ฉันพยายามปีนออกไปยืนที่ขอบหน้าต่างด้านนอก เพื่อเก็บทุกอย่างให้เข้าที่
แต่ก็ได้คืนมาเพียงกระถางสีอิฐแห้งกับเศษดินอีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
มันเป็นพันธุ์ไม้ดอกที่ฉันหอบหิ้วมาจากจังหวัดหนึ่งที่อยู่แสนไกล
ให้น้ำให้ปุ๋ยประคบประหงมอยู่ร่วมสองเดือน
แต่ไม่เคยออกดอกงาม เพื่อนๆ มักบอกว่า โฉลกฉันไม่ตรงกับต้นไม้
แค่พลูด่างที่ปลูกเลี้ยงได้ง่ายดาย
ก็ยังเลี้ยงได้ไม่งามเหมือนใครเขา แต่ฉันก็ไม่เคยหมดความพยายาม
แม้ว่าสถานที่และความเป็นอยู่นั้น ไม่เหมาะกับการปลูกต้นไม้เอาเสียเลย
ด้วยเหตุนี้เองทีทำให้ฉันต้องสูญเสียต้นไม้ที่ใส่กระถางแขวนห้อยไว้กับหน้าต่างนั้นไป
แต่ก็ยังดี ที่ฉันยังเหลือต้นไม้อีกสองกระถาง แม้มันจะเป็นไม้พันธุ์พื้นๆ ที่พบเห็นได้ทั่วไป
แต่ความสมบูรณ์ของมัน ก็ทำให้ฉันภาคภูมิใจกับความเอาใจใส่ของตัวเองได้พอสมควร
ทุกเช้าเย็นที่รดน้ำต้นไม้ข้างหน้าต่างก็ไม่ได้สังเกตถึงน้ำที่ไหลราดไปบนหลังคาว่า
ได้พัดพาดินและกลุ่มต้นไม้ที่หกคว่ำในวันนั้นให้ไปกองรวมกันอยู่บนรางน้ำฝนจนเกลี้ยงหลังคาตั้งแต่เมื่อไหร่
จนกระทั่งเช้าวันหนึ่ง
ฉันเห็นดอกไม้สีเหลืองบานอยู่อย่างสว่างไสวท่ามกลางแสงแดดอ่อน
ฉันรู้สึกถึงกลีบดอกอิสระ ก้านช่อทะนง แข็งแรง มันอยู่อย่างกล้าหาญเหลือเกิน เอื้อมไม่ถึง สัมผัสไม่ได้
แต่อิริยาบทของดอกไม้ก็ประทับใจไม่น้อยกว่าที่เคยประทับใจ
ฉันรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่พิเศษออกไป …บางที
ความรักที่เรามีต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่มีมากจนเกินไป
แหนหวงเกินไป ทะนุถนอมห่วงใยเกินควร อุปการะเกินความจำเป็น
แทนที่จะเร่งรัดให้ความหวังมาถึงก่อนกำหนดอย่างใจ…
ตรงกันข้ามมันอาจกลับกลายเป็นตัวการที่ทำให้ชักช้าร่ำไรไปเสียอีก
ความรัก ความห่วงใย แม้จริงใจจริงแท้
มันก็อาจไม่ใช่สิ่งที่ดีไปทุกเวลา เราอาจต้องสร้างขอบเขตของมันไว้บ้าง
คงไม่มีสิ่งมีชีวิตใดที่ต้องการเติบโตภายใต้เงื้อมเงาแห่งการอุปการะของใครไปทุกอย่าง
กับชีวิตอิสระ แม้แดดจะแรงไปบ้าง
น้ำจะน้อยไปนิด ปุ๋ยจะขาดแคลนไปหน่อย แต่อย่างน้อย ก็ได้ชื่นชมตัวเอง
ท่ามกลางความหมายหมื่นพันประการของความรักส่วนหนึ่งคงหมายถึงการอยู่ไกลๆ
เพื่อให้อีกฝ่ายมีโอกาสเติบโตด้วยตนเอง

กุหลาบแดง

ช่างไม้ที่ฉันจ้างมาซ่อมบ้านต่างจังหวัดเพิ่งเสร็จงานอย่างทุลักทุเล
ยางรถที่แตกทำให้เขาเสียเวลางานไปกว่าชั่วโมงเลื่อยไฟฟ้าก็เสีย
แล้วนี่รถปิ๊คอัพโกโรโกโสก็สตาร์ทไม่ติดเสียอีกฉันจึงต้องขับรถไปส่งเขาที่บ้าน

เขานั่งเงียบตลอดทาง
เมื่อไปถึงเขาพาฉันไปรู้จักกับสมาชิกในครอบครัว
ในระหว่างที่เราเดินผ่านประตูรั้ว เขาหยุดครู่หนึ่งที่ต้นไม้หน้าบ้าน
เอามือทั้งสองขึ้นไปเหนี่ยวกิ่งใหญ่ชั่วครู่หนึ่งเมื่อไปถึงประตูบ้าน
สีหน้าของเขาแช่มชื่นเป็นคนละคน เขาสวมกอดลูกชายเล็กๆ ทั้งสอง
รวมทั้งหอมแก้มภรรยาหลังจากนั้น เขาก็เดินมาส่งฉันที่รถ
เราเดินผ่านต้นไม้ต้นเดิม
ฉันอดไม่ได้ที่จะถามเขาด้วยความอยากรู้ว่า
เขายกมือทั้งสองเหนี่ยวกิ่งไม้ตอนขาเข้ามาทำไม
"อ้อ..นั่นมันต้นไม้ปัญหาของผมเอง"
เขาตอบ "ปัญหาในการทำงานเกิดขึ้นกับผมเสมอๆ แต่ที่แน่ๆ สิ่งหนึ่งก็คือ
ปัญหาต่างๆ พวกนี้ไม่ใช่ปัญหาของคนในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นภรรยาหรือลูกๆ
ดังนั้น
ผมก็เลยแขวนปัญหาทั้งหมดที่มีในแต่ละวันไว้ที่ต้นไม้ต้นนี้ก่อนเข้าบ้าน
แล้วผมก็จะเอาปัญหาที่แขวนไว้ออกไปกับผมใหม่ในตอนเช้า"
เขายิ้ม "คุณรู้ไหมที่แปลกก็คือ
ดูเหมือนปัญหาที่ผมเอาติดตัวกลับไปทำงานในทุกเช้า
ไม่เคยมากเท่าตอนเอามาแขวนเลยสักที"

A-Z Friends

Always be homest , would you want them to lie to you?
จงซื่อสัตย์เสมอ...... คุณต้องการให้เพื่อนโกหกคุณเหรอ

Be there when they need you, or you may wind up alone
จงอยู่เคียงข้างเมื่อเขาต้องการ.....หรือคุณต้องการจะอยู่คนเดียว

Cheer them on, wi all need encouragement now and then
ให้กำลังใจ......เราทุกคนต่างก็ต้องการการสนับสนุนเป็นบางครั้ง

Don't look for their faults, even if you have none
อย่ามองหาข้อผิดพลาดของเขา.....แม้ว่าคุณจะไม่มีข้อผิดพลาดแม้แต่ข้อเดียว

Encourage their dreams, what would we be without them?
สนับสนุนให้เขาทำตามความฝัน.......เราจะอยู่อย่างปราศจากความฝันได้อย่างไร

Forgive them, you just may do somethin wrong sometime
ให้อภัย ....คุณอาจจะเคยทำผิดพลาดในบางเวลา

Get together often, misery loves company, so does glee
เจอกันบ่อยๆ...... เมื่อมีความทุกข์ ต้องมีเพื่อนเพราะการคบค้าสมาคมทำให้เกิดความสนุกสนาน

Have faith in them, the human animal is remarkable
มีศรัทธาในเพื่อน.....การมีศรัทธาเป็นสิ่งที่แบ่งแยกมนุษย์ออกจากสิ่งมีชีวิตอื่น

Include them, you mayneed to be included sometime
รวมเขาเข้าไปด้วย......คุณก็อาจจะต้องการถูกรวมบ้างบางครั้ง

Just be there when they need you
อยู่ข้างๆ.......เมื่อเขาต้องการคุณ

Know when they need a hug, and couldn't you use one?
รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เขาต้องการให้กอด...เคยกอดเพื่อนบ้างหรือยัง

Love them unconditionally, that is the only condition
รักโดยไร้ข้อแม้........นี่เป็นเพียงเงื่อนไขข้อเดียวเท่านั้น

Make them feel spicial, because aren't we all special?
ทำให้เขารู้สึกเป็นคนพิเศษ.. เพราะเราทุกคนก็เป็นคนพิเศษไม่ใช่เหรอ

Never forget them, who wants to feel forgotten
อย่าลืมเพื่อน........ ใครบ้างอยากถูกลืม

Offer to help, and know when " Nothanks" is just politeness
เสนอตัวที่จะช่วยเหลือ......และควรรู้ว่าเมื่อไหร่ที่คำว่า "ไม่เป็นไร ขอบคุณ "เป็นคำพูดแค่เพื่อมารยาท

Praise them honesly and openly
ยกย่องเพื่อนอย่างจริงใจ และเปิดเผย

Quietly desagree, noisy No's make enemies
อย่าโต้แย้งอย่างโจ่งแจ้ง........การทำเช่นนั้นก่อให้เกิดศัตรู

Really listen, a friendly ear is a soothing balm
ตั้งใจรับฟัง.......การรับฟังของเพื่อนคือยารักษาอาการ

Say you're sorry, don't let them assume it
กล่าวคำขอโทษ.......อย่าปล่อยให้เพื่อนต้องสันนิษฐานเอาเอง

Talk frequently, connunication is important
พูดคุยกันบ่อยๆ ........การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญ

Use good judgement
ใช้ข้อตัดสินที่ดี

Verbalsise your feelings
อธิบายความรู้สึกของคุณเป็นคำพูด

Wish them luck, hopeftlly good
อวยพรให้โชคดี ..........หวังว่าเขาจะพบแต่เรื่องดี

Xamine your motives before you "help" out
ตรวจสอบเจตนาของคุณ ก่อนที่จะขอความช่วยเหลือ

Your words count, use them wisely
คำพูดของคุณมีค่า ......จงใช้อย่างชาญฉลาด

Zip your lips when they told a secret
ปิดปากให้สนิทเมื่อเพื่อนบอกความลับ

ฉันได้เรียนรู้ว่า

ฉันได้เรียนรู้ว่า... บางครั้งสัตว์ยังทำให้หัวใจเรา อบอุ่นได้ดีกว่าคนเสียอีก
ฉันได้เรียนรู้ว่า... ผู้หญิงทุกคนอยากได้รับดอกไม้กันทั้งนั้น โดยเฉพาะเวลาที่ไม่ใช่โอกาสพิเศษ
ฉันได้เรียนรู้ว่า... ยากล่อมประสาทที่ดีที่สุด คือ สติสัมปชัญญะนั่นเอง
ฉันได้เรียนรู้ว่า... การได้นอนอยู่บนหญ้าเขียว ไม่ว่าจะอยู่ในทุ่งแห่งใด ก็ให้ความรู้สึกที่ดีได้ทั้งนั้น
ฉันได้เรียนรู้ว่า... การฟังเพลงเบาๆในยามที่เราเศร้าโศกนั้น ช่วยบรรเทาความทุกข์ในใจให้เบาบางลงไปได้อย่างมากมาย
ฉันได้เรียนรู้ว่า.. คุณหาเงินได้มากขึ้นได้ แต่ไม่สามารถหาเวลาเพิ่มได้
ฉันได้เรียนรู้ว่า... หากเราละเลยความผูกพันกับพ่อแม่แล้วไซร้ เราจะหวนให้คิดถึงท่านเจียนตายยามเมื่อท่านจากไป
ฉันได้เรียนรู้ว่า... การได้รักและถูกรัก เป็นความรื่นรมย์อันยิ่งใหญ่สุดในโลก
ฉันได้เรียนรู้ว่า.... คุณอาจรักใครบางคน ทั้งๆที่ไม่ได้ชอบเขามากมายก็ได้
ฉันได้เรียนรู้ว่า... ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เจ็บปวดยิ่งไปกว่าความเกลียดชัง นั่นคือความเมินเฉย
ฉันได้เรียนรู้ว่า... แม้ฉันจะต้องเจ็บปวด แต่ก็ไม่จำเป็นจะต้องอยู่อย่างเจ็บปวดเสมอไป
ฉันได้เรียนรู้ว่า... ความเอื้ออาทรนั้นสำคัญกว่า ความเพียบพร้อมบริบูรณ์เสียอีก
ฉันได้เรียนรู้ว่า... การลืมสิ่งที่ผิดพลาดไปแล้วนั้น สำคัญพอกับการจดจำสิ่งที่ดีงามเอาไว้
ฉันได้เรียนรู้ว่า... การคาดเดานั้นมักจะเลิศหรู กว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจริงเสมอ
ฉันได้เรียนรู้ว่า... ฉันไม่อาจคาดหวังผู้อื่น ให้แก้ปัญหาของฉันได้
ฉันได้เรียนรู้ว่า.... เมื่อสิ่งเลวร้ายผ่านเข้ามา คุณจะปล่อยให้มันสร้างความขมขื่นใจให้คุณ
หรือใช้มันเป็นพลังทำให้คุณเข้มแข็งขึ้นก็ได้
ฉันได้เรียนรู้ว่า... ถึงเราจะเปลี่ยนแปลงอดีตไม่ได้ แต่เราปล่อยให้มันผ่านไปได้
ฉันได้เรียนรู้ว่า... หากต้องการคำตอบที่ดี ก็ควรถามคำถามที่ดีด้วย
ฉันได้เรียนรู้ว่า... ระดับความมั่นใจในตัวเองของคนคนหนึ่ง จะเป็นตัวเองของระดับความสำเร็จของเขาด้วย
ฉันได้เรียนรู้ว่า.... อาจจะมีใครที่รักคุณอย่างจริงจังอยู่ก็ได้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะแสดงออกให้คุณรู้ได้อย่างไร
ฉันได้เรียนรู้ว่า... ในที่สุดแล้วผู้รับจะเป็นผู้แพ้ และผู้ให้นั่นแหละคือผู้ชนะ
ฉันได้เรียนรู้ว่า... การเรียนรู้ที่จะให้อภัยนั้น ต้องการการฝึกฝน
ฉันได้เรียนรู้ว่า... คนเราไม่อาจเป็นวีรบุรุษได้ โดยไม่รู้จักการลงมือทำ
ฉันได้เรียนรู้ว่า... คล็ดลับของการเติบโตอย่างสง่าผ่าเผยคือ อย่าหมดความกระตือรือร้นที่จะพบพาผู้คนและสถานที่ใหม่ๆ
ฉันได้เรียนรู้ว่า.... การซื่อสัตย์ต่อสิ่งเล็กน้อย ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย
ฉันได้เรียนรู้ว่า... สิ่งดีๆนั้น มักจะเกิดขึ้นกับคนดีเสมอ
ฉันได้เรียนรู้ว่า... การจากเพื่อนที่ใกล้ชิดที่สุดนั้น เป็นเรื่องยากกว่าที่ฉันเคยคิดเอาไว้มาก
ฉันได้เรียนรู้ว่า... การเยียวยารักษามิตรภาพที่บอบช้ำนั้น ทำเมื่อไหร่ก็ไม่สาย
ฉันได้เรียนรู้ว่า... สิ่งที่จะทำให้เสียเพื่อนได้ดีที่สุดคือ การให้เพื่อนยืมเงิน
ฉันได้เรียนรู้ว่า... ชีวิตจะเติมเต็มไม่ได้ หากปราศจากเพื่อน
ฉันได้เรียนรู้ว่า... การที่จะรู้ค่าอะไรสักอย่างนั้น คุณจะต้องขาดมันไปสักพักก่อน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ข้อสอบครูชำนาญการพิเศษ ข้อสอบครูชำนาญการพิเศษ,สอบครูชำนาญการพิเศษ